มะม่วงกวน
มะม่วงกวน ถือเป็นขนมทานเล่นชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็นแผ่นบางๆ ค่อนข้างใส สีออกเหลืองหรือน้ำตาลอมเหลือง มีความเหนียวพอสมควร ทำเป็นรูปวงกลม ดอกไม้ หรือ ม้วนเป็นเกลียว เป็นต้น การทำมะม่วงกวนถือเป็นหนึ่งในวิธีการถนอมอาหารที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ หลักการถนอนอาหารโดยการกวนนั้นมีหลักดังนี้คือ นำเอาผลไม้ที่สุกแล้วมาเคี่ยวผสมรวมกับน้ำตาล โดยอาศัยความร้อนเป็นหลัก ซึ่งในการทำมะม่วงกวนนั้น ถือเป็นการกวนแบบแห้งที่ต้องใช้น้ำตาลในอัตราส่วนมากๆนั่นเอง รสชาดของมะม่วงกวนโดยส่วนใหญ่มักมีรสหวาน หวานอมเปรี้ยว หรือเปรี้ยวจัด โดยเคล็ดลับในการทำมะม่วงกวนให้น่ารับประทาน คือการเลือกสรรมะม่วงที่ไม่สุกจนเกินไป และแนะนำให้ใช้มะม่วงแก้วซึ่งเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายมากที่สุดในท้องตลาด หรือสามารถนำเอามะม่วงหลายๆชนิดมาผสมรวมกันก็ได้
ประโยชน์
- เป็นการยืดอายุของมะม่วง ทำให้สามารถเก็บไว้รับประทานได้นานขึ้น
- ได้รับประทานมะม่วงในรูปแบบ สี กลิ่น รสชาดที่ต่างไปจากการทานมะม่วงทั่วไป
- เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ และสร้างรายได้เสริมให้กับผู้ผลิต
วิธีทำ
- ใช้มะม่วงสุกเกือบงอม เช่น มะม่วงพิมเสน อกร่อง แก้ว ฯลฯ อย่างใดอย่างหนึ่ง 5 กิโลกรัม
- ปอกผิวมะม่วงออก อย่าให้มีผิวติดเพราะจะทำให้เนื้อหยาบ ไม่อร่อย
- สับเนื้อมะม่วงให้ละเอียด โดยวางลูกมะม่วงบนฝ่ามือข้างหนึ่ง ใช้มีดสับอีกมือหนึ่ง
- เมื่อสับเสร็จแล้วจะได้เนื้อมะม่วงประมาณ 4 กิโลกรัมเศษ
- ตั้งหม้อ แล้วใส่เนื้อมะม่วงที่สับไว้แล้วลงไป ใช้ไฟอ่อน
- ใช้ไม้พาย กวนไปในทางเดียว สลับกับการแซะขึ้นลง ป้องกันเนื้อมะม่วงติดหม้อ
- พยายามอย่าหยุดกวนเด็ดขาด
- ใส่เกลือประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ก่อนใส่เกลือให้ชิมดูก่อน ถ้ามะม่วงเปรี้ยวเพิ่มอีก 1 ช้อนโต๊ะ
- ใส่น้ำตาลทราย ครึ่งกิโลกรัม ถ้ามะม่วงเปรี้ยวให้เพิ่มอีกตามใจชอบ
- กวนต่อไปจนสังเกตุเห็นว่าเนื้อมะม่วงเดือดเป็นเม็ดปุดๆ ประมาณ 1 ชั่วโมงก็ปิดไฟได้
- การตาก ใช้พลาสติกใสปูเต็มผืน เช็ดให้สะอาดแล้วผึ่งลมให้แห้ง
- ตักเนื้อมะม่วงประมาณ 1 ช้อนคาว แล้วเทลงในแผ่นพลาสติก ละเลงเป็นวงให้บางพอประมาณ
- ทำไปเรื่อยๆจนหมด แล้วนำไปตากแดดจนเนื้อเริ่มหมาดแห้ง โดยใช้เวลาประมาณ 3 วัน
- เมื่อแห้งแล้ว ลอกออกมาเป็นแผ่นๆ หรือจะม้วนหรือพับก็ได้ สามารถเก็บไว้ทานได้เป็นปี
หมายเหตุ : กรรมวิธีการทำของ คุณย่าบุญธรรม ศรีระกิจ (ยอดโฉมฉิน) สอนไว้เมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๖ ปัจจุบันถึงแก่กรรมเมื่อ ๒๗ กันยายน ๒๕๕๖
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น